เมืองลูเซิร์น
เมืองลูเซิร์น

คือภูมิภาคที่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ตอนใน กับพื้นบริเวณรอบๆ ทะเลสาบลูเซิร์นหรือชื่อในภาษาเยอรมันเรียกว่า Vierwaldstattersee สวิตเซอร์แลนด์ตอนกลาง เป็นสวิสเยอรมัน ประกอบด้วยมณฑลต่างๆ คือเบิร์น (Bern) เบอร์นีสโอเบอร์ลันด์ (Bernese Oberland) บาเซิล (Basel) ลูเซิร์น (Luzern) เอมเมนเทล (Emmental) อูรี (Uri) ซวิช (Schwyz) ซึ่งเป็นที่มาของธงชาติและชื่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในภาษาเยอรมันคือ ชวีซ (Schwyz) นิลวัลเดน (Nidwalden) ออบวัลเดน (Obwalden) และ ซุก (Zug) สามารถชมคลิปจาก Tiktok เมืองลูเซิร์น ได้จาก ลิงค์นี้ เมืองลูเซิร์น

ภูมิภาคนี้เป็นที่เกิดตำนานนักสู้ วิลเลียม เทลล์ (Wilhelm Tell) ที่เขียนเล่าโดย Schiller กล่าวว่า ณ ที่แห่งนี้ บนท้องทุ่ง Rutli ในปีค.ศ. 1291 กลุ่มชาวนาที่มีหัวใจอิสระของมณฑลทั้งสามของสวิตเซอร์แลนด์คือ ชวีซอุนเทอร์วัลเดน (Unterwalden) และอูรีได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสมาพันธรัฐสวิสและประกาศตัวเป็นอิสระจากการปกครองของราชสำนักฮับสบูร์กแห่งออสเตรีย
เมืองลูเซิร์น (Luzern) เมืองนี้เป็นเสมือนหัวใจของภูมิภาคนี้ เป็นเวลานับศตวรรษมาแล้วที่นักท่องเที่ยวและบุคคลที่มีชื่อเสียบง เช่น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร คีตกวีวากเนอร์และเกอเธ่จากเยอรมนี หรือนักประพันธ์เรืองนามชาวอเมริกัน มาร์ก ทเวน (Mark Twain) เดินทางมายังลูเซิร์นเพื่อชมความงามของทะเลสาบลูเซิร์น ยอดเขาริกิ และยอดเขาพีลาตุส
เมืองลูเซิร์น (ฝรั่งเศสและอังกฤษเรียกว่า Lucerne) ตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำรอยส์ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลสาบ ด้านตะวันออกคือยอดเขาริกิ (สูง 1,798 เมตร) และที่ปลายขอบฟ้าด้านทิศใต้คือยอดเขาพีลาตุส (สูง 2,120 เมตร) เมืองเติบโตขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพราะการติดต่อค้าขายกับอิตาลี แต่ตัวเมืองลูเซิร์นถูกนำไปขายให้กับราชสำนักฮับสบูรก์ของออสเตรียในปี ค.ศ. 1291 แต่ได้กลับคืนมาอยู่ในมณฑลเดิมในปี ค.ศ. 1332 ประชาชนของมณฑลนี้เป็นฝ่ายอนุรักษ์และเป็นผู้นำต่อต้านการปฏิรูปทางศาสนาที่เกิดขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อศตวรรษที่ 16-19

สถานที่ท่องเที่ยวในลูเซิร์น
ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ในเมืองลูเซิร์นส่วนใหญ่รวมตัวกันในเขตเมืองเก่าและบริเวรณทะเลสาบ เริ่มจากสัญลักษณ์ของเมืองคือ สะพานไม้ซาเปล สะพานไม้อายุเกือบ 700 ปีนี้เป็นสะพานมีหลังคาคลุมที่ทอดข้ามแม่น้ำรอยส์จากสถานีรถไฟไปสู่ฝั่งเมืองเก่า มีจุดเด่นคือภาพเขียนบนคานไม้ ใต้หลังคาตลอดความยาวของสะพานมีหลังคาคลุมที่ทอดข้ามแม่น้ำรอยส์จากสถานีรถไฟไปสู่ฝั่งเมืองเก่า มีจุดเด่นคือภาพเขียนบนคานไม้ใต้หลังคาตลอดความยาวของสะพานเป็นภาพเขียนฝีมือจิตรกร Heinrich Wgmann บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของท้องถิ่นและเหตุการณ์สำคัญของประเทศเช่น ภาพบนคานไม้ภาพหนึ่ง (Panel No.31) เป็นภาพวิลเลียม เทลล์ใช้ธนูยิงลูกแอปเปิลที่วางอยู่บนหัวลูกชาย เป็นต้น
น่าเสียดายที่สะพานนี้เกิดไฟไหม้เสียหายอย่างมากในปีค.ศ. 1993 แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่เหมือนเดิม ถัดเข้าไปอีกหน่อยคือ สะพาน Spreuerbrucke สะพานสมัยศตวรรษที่ 14 จุดเด่นคือสะพานนี้ประดับด้วยภาพเขียนฝีมือจิตรกร Kaspar Megliger (ค.ศ.1635) ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงมากคือภาพระบำมรณะ (Dance of Death หรือ Totentanz)
เมืองเก่าของลูเซิร์น โดยเฉพาะบริเวณจัตุรัส Hirchenplatz สวยงามด้วยอาคารเก่าแก่ที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนบนผนังด้านนอก และหน้ามุขกระจก (Oriel) กำแพงเมือง (Musegg Wall) กับหอคอย 9 แห่ง ที่ได้รับการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1400 ทอดตัวยาวเหยียดอยู่บนเนินเขาเนือตัวเมืองเป็นจุดขมวิวที่ดีสำหรับคนชอบเดินเที่ยว อาคารหลายแห่งในลูเซิร์นได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยการมอิตาเลี่ยน เช่น ศาลาว่าการเมือง เป็นอาคารสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองสืสมัยศตวรรษที่ 17 และอาคารทำเนียบรัฐบาลก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 16 โบสถ์สำคัญคู่เมืองนี้คือ โบสถ์หอคอยคู่ Franziskanerkirche และ Hofkirche (Collegiate Church of St. Leodegar) ซึ่งสร้างขึ้นตอนกลางศตวรรษที่ 8 เป็นโบสถืแรกในลูเซิร์น โบสถ์เคยถุกไฟไหม้เสียหายเกือบหมดเหลือไว้แต่หอคอยแฝดยอดแหลม (Twin Towers) เท่านั้น

พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (Picasso-Museum)อยู่ที่ถนน Furrengasse 21 ใกล้กับทาวน์ฮอลล์หรือศาลาว่าการเมือง พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซเก็บสะสมงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกท่านนี้เอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผลงานในชีวิตช่วง 20ปีหลัง นอกจากผลงานของปิกัสโซแล้ว ในพิพิธภัณฑ์ยังแสดงภาพถ่ายฝีมือเดวิด ดักกลาส ดันแคน (David Douglas Duncan) ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของศตวรรษที่ 20 อีกด้วย

สะพานชาเปล สะพานไม้ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ในอดีตสร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ถือได้ว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของ มีอายุหลายร้อยปี ภายหลังได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากถูกไฟไหม้ นับว่าเป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว หลังจากก่อสร้างสะพาน Schollenen ซึ่งทำให้เทือกเขากอตทาร์ด (Gotthard) ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศอีกต่อไป ความสำคัญของภาคกลางในทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ทวีขึ้นอย่างมากมาย ในปี ค.ศ. 1871 รถไฟใต่เขาขบวนแรกของยุโรปได้นู้คนขึ้นไปสู่ยอดเขาริกิ (Rigi) เหนือทะเลสาบลูเซิร์น นับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญยิ่งของการท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์

อนุสาวรีย์สิงโตหิน (The Lion Monument) ที่แกะสลักอยู่บนหน้าผา บริเวณหัวของสิงโตจะมีโล่ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของทหารสวิตฯ ที่เสียชีวิตไปในการต่อสู้ป้องกันพระราชวัง ระหว่างการปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส

สิงโตแห่งลูเซิร์น สัญลักษณ์ของลูเซิร์นที่มีชื่อเสียง นอกจากสะพานไม้ชาเปลแล้ว ยังมีสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ สิงโตแห่งลูกเซิร์นอยู่ที่ถนน Lowenstrasse อนุสาวรีย์เป็นหินแกะสลักเป็นรูปสิงโตต้องหอกบาดเจ็บนอนอยู่ในถ้ำ อนุสาวรีย์สูง 9 เมตรนี้เป็นของขวัญจากรัฐบาลฝรั่งเศสมองให้สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารรับจ้างชาวสวิสที่เสียชีวิตในระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส
สถานที่น่าสนใจเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์อุทยานธารน้ำแข็ง (Glacier Garden Museum) ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของธารน้ำแข็งที่ปกคลุมประเทศนี้เมื่อ 20 ล้านปีที่แล้ว และภาพเขียน Bourbaki Panorama ภาพเขียนขนาดยักษ์ของสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ซึ่งเป็นสถานการณ์แรกที่กาชาดสวิสได้มีส่วนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับหายนะภัยจากการทำสงคราม

ทะเลสาบลูเซิร์น (Vierwaldstattersee หรือ Lake Lucerne) มีอาณาเขตอยู่ในพื้นที่ของมณฑลทั้งสี่คือ มณฑลอูรี ชวีซ อุนเทอร์วัลเดน และลูเซิร์น ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาแวดล้อมทะเลสาบรอบทิศ โดยต่างก็มีทัศนียภาพของริมฝั่งที่แตกต่างกันออกไป แต่ทำเลที่ตั้งของลูเซิร์นทำให้มณฑลนี้กลายเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในเขตภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์