เที่ยวพม่า3 วัน 2 คืน
เที่ยวพม่าพาสักการะมหาบูชาสถานศักดิ์สิทธิ์
วันนี้นางฟ้าพาทัวร์ จะนำท่านไปนมัสการมหาบูชาสถานของพม่ากัน ทัวร์พม่าทริปนี้เรียกได้ว่า อิ่มบุญ อิ่มใจฝุดๆ ตามมาค่ะ ทริปนี้เราใช้บริการของสายการบินเมียนมาร์แอร์เวย์ ค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงสนามบิน มิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า 1 ชั่วโมง 15 นาที ไม่ขาดไม่เกินค่ะ (ฝีมือจริงๆ) แปลกแต่จริงค่ะ ประเทศอยู่ติดกันแท้ๆ แต่เวลากลับช้ากว่าที่เมืองไทยตั้ง ครึ่งชัวโมงแน่ะ.. ซึ่งก็มีรถตู้มารอรับนักท่องเที่ยวในทริปนี้ กว่าจะมาถึงก็ใกล้เที่ยงล่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ รอไรคะ ป่ะ... ทานข้าวกัน
อาหารที่นี่ ใกล้เคียงกับเมืองไทยค่ะ มีทั้งจืดและเผ็ด แต่เผ็ดไม่มากค่ะ รสชาดใช้ได้เลยค่ะ เหมาะกับทุกวัย หลังจากอิ่มเอ็มกับมื้อกลางวันแล้ว เมื่อถึงเวลาล้อหมุนเราก็ไปเที่ยวกันเลยค่ะ
สถานที่แรกที่เราจะพาไปคือ พระเจดีย์โบตะตอง หรือที่คนไทยเรียกติดปากกันว่า เจดีโบตะทาวน์ เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่จะนำไปบรรจุพระเจดีย์ชเวกากอง เมื่อพระเกศาธาตุได้ถูกอัญเชิญขึ้นจากเรือได้นำมาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์โบตะตองแห่งนี้ก่อนที่พระเจดีย์แห่งนี้จะถูกทำลายในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้ทำการบรูณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ พระเจดีย์โบตะตองแห่งนี้จะแตกต่างจากพระเจดีย์ทั่วไปคือ ใต้ฐานพระเจดีย์จะออกออกให้มีโครงสร้างโปร่งให้คนเดินเข้าใปด้านในได้ โดยอัญเชิญพระบรมธาตุไว้ในผอบทองคำ ให้ผู้คนได้เข้ามากราบไว้สักการบูชา ของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายแก่องค์พระเจดีย์นั้นจะถูกนำมาจัดแสดงไว้ในส่วนของผนังใต้ฐานเจดีย์
มาถึงแล้วก็พลาดไม่ได้ที่จะมาสักการะขอพรจาก “เทพทันใจ” (นัตโบโบยี) ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ใครมาขอพรก็มักจะสมความปรารถนา
สถานที่ต่อมา นางฟ้าจะพาไปต่อกันที่ เจดีย์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามที่สุด มีขนตาที่งดงาม พระบาทมีภาพมงคลทั้งหมด 108 ประการ พระบาทวางซ้อนกัน ซึ่งมีความแตกต่างกับพระพุทธไสยาสน์ศิลปะของไทย มีความงดงามโดยมีขนาดความยาวขององค์ 70 เมตร สวยงามใหญ่โตจริงๆค่ะ หลังจากที่ไหว้พระขอพรพระนอนตาหวานแล้ว เราก็จะพาไปต่อกันที่ พระบรมธาตุชเวดากอง ซึ่งเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของพม่า ไม่น่าเชื่อว่าผู้คนจะมากมายกันขนาดนี้ เพราะมีทั้งคนพม่าและชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมชมและมาขอพร เรียกว่า มากันไม่ขาดสายจริงๆ แม้ยามค่ำคืนเจดีย์แห่งนี้ก็จะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ดูสวยงามสุดๆ
มาค่ะ!! จะพาไปขอพรกัน ซึ่งหน้าจุดที่สักการะ ก็จะมีบทสวดขอพรดังนี้
วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมานะ ธัมมะ การะนัง ธาตุโย ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะ ติ อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา
**อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่า ชัยชนะและความสำเร็จ**
ถึงเวลาต้องกลับที่พักกันแล้วค่ะ ก่อนกลับเราแวะทานอาคารค่ำที่ภัตตาคารแห่งนึงซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมที่พักนัก เมื่อท้องอิ่มเราก็กลับมาพักที่โรงแรมกัน เราจะพักกันที่โรงแรม Grand United alone ห้องพักได้มาตรฐานค่ะ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
เช้าวันที่สองของการเดินทาง
หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้ว นางฟ้าจะพาท่านเดินทางสู่เมืองหงสาวดีซึ่งอยู่ห่างจาก โรงแรมที่เราพักในย่างกุ้งประมาณ 80 กม. การเดินทางขับรถแบบชิวๆความเร็วมาตรฐาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ซึ่งจะผ่านสุสานสัมพันธ์มิตร ในสมัยที่พม่ากับญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2
จากนั้นนำท่านมาถึงพระเจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งบูรณะเมื่อพ.ศ. 2019 เป็นพระพุทธรูปปางประทับ นั่งรอบทิศ ประกอบด้วยพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (หันไปทางทิศเหนือ) พระพุทธเจ้าโกนาคม์ (หันไปทางทิศใต้) พระพุทธเจ้ากุสันธะ (หันไปทิศตะวันออก) และพระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก)
พระพุทธรูปนี้ สร้างโดยสี่สาวพี่น้อง ที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูปแทนตนและสาบานตนว่าจะไม่จ้องแวะกับบุรุษเพศอีก ว้าว...โมทนาสาธุด้วยค่ะ จากนั้น นางฟ้าจะพาท่านมาทำบุญตักบาตรกับพระสงฆ์กว่า 1000 รูป ที่วัด ไจ้คะวาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีพระภิกษุสามเณรไปศึกษาพระไตรปิฏกกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากทานมื้อเที่ยงกันแล้ว เราก็จะพาท่านไปยัง เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือที่คนไทยเรียกว่า เจดีย์มุเตา ซึ่งเป็นเจดีย์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองที่สูงที่สุดของหงสาวดี ซึ่งนางฟ้าจะพาไปไหว้ขอพร พระพุทธไสยาทน์ชเวตาเลียว เป็นพระนอนที่สวยงามที่สุดของเมืองหงสาวดี
จากนั้นเราขอนำท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กม. ชมความงามของบ้านเมืองประเทศพม่า แปลกตา น่ามอง ซึ่งอดีตพม่าเคยเป็นเมืองท่าของโปตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี และแล้ว...เราก็มาถึงพระเจดีย์เยเลพญา บนเกาะกลางน้ำที่มีอายุนับพันปี และในบริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ เราสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกที่มีจำนวนมากเป็นร้อยๆ ตัว
นี่ก็ได้เวลาอาหารอีกรอบแล้วค่ะ มื้อนี้พาไปทานที่ภัตตาคาร เวสเทิร์นปาร์ค (Western Park Restaurants)
เมื่ออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ป่ะ ช๊อปปิ้งกัน นางฟ้าจะพาไปตลาดโบโจ๊ก ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพม่า ถึงเวลาละลายทรัพย์กันแล้วค่ะ จัดไปค่ะ..
เมื่อช๊อปปิ้งกันจุใจแล้วก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราก็จะนำคณะทัวร์มาสักการะ พระหินอ่อน (เจ๊าดอจี) เป็นเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า มีน้ำหนักถึง 60 ตัน สูง 37 เมตร
และก็ได้เวลาเดินทางกลับเมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของเรา....อย่างมีความสุข..
***เรียกว่า ทริปทัวร์พม่าครั้งนี้ อิ่มบุญกันจริงๆกันเลยทีเดียวค่ะ*** และทัวร์พม่าของ Angel Star Travel ยังได้รับการจัดอันดับ 10 อันดับบริษัททัวร์ไปพม่า โปรแกรมดี ราคามิตรภาพ จาก Top Best Brand อีกด้วย