เทศกาลและงานสำคัญของจีน
จีนเป็นชาติเดียวในโลกที่ยังคงสืบทอดศิลปวัฒนธรรมและประเพณีโบราณอายุหลายพันปีต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ประเพณีทางศาสนาที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมก็ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม และเพื่อความสนุกสนานและทันกับยุคสมัย งานประเพณีบางอย่างได้เพิ่มกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การแสดงสินค้า นิทรรศการ เป็นงานแสดงประจำปีเข้าไปด้วย การมาทัวร์จีน จึงได้รับความสนใจจากนักทอ่งเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย เพราะเที่ยวได้ทั้งปี

**เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (Spring Festival)
ตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามจัทรคติ มีงานฉลองทั่วประเทศ เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์เซี่ย (2100-1600 ปีก่อนคริสตกาล) เดิมเป็นพิธีบวงสรวงจัดขึ้นหลังจากวันที่ดวงอาทิตย์โคจรห่างโลกมากที่สุดในฤดูหนาว ไม่นานนักเพื่อแสดงความกตัญญูต่อเทพเจ้าที่ดลบันดาลให้การเพราะปลูกได้ผลดี ก่อนถึงเทศกาล ชาวจีนจะทำความสะอาดตกแต่งบ้านช่องให้สวยงาม นิยมใช้กระดาษตัดเป็นรูปตัวละครจากอุปรากร ดอกไม้ นก แมลง และปลา ตกแต่งตามหน้าต่าง ประตูติดป้ายคำมงคลสีแดง ซื้อเสื้อผ้าใหม่ สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะกลับมาร่วมรับประทานอาหารส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกัน อาหารประจำเทศกาลคือ เค้กปีใหม่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว เจียวจื่อ (คล้ายเกี้ยว) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่ชาวจีนทางภาคเหนือนิยมมาก

**เทศกาลโคมไฟ (Lantern Festival)
ตรงกับวันที่ 15 เดือน 1 ตามจันทรคติ เป็นงานทั่วประเทศเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยฮ่องเต้เวิ่น แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ต่อมาฮ่องเต้หมิงแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก โปรดให้ติดโคมไฟทั่วพระราชวังและวัดอารายถวายเป็นพุทธบูชา รวมทั้งขอให้ขุนนางและประชาชนทั่วไปประดับโคมไฟที่ประตูหน้าบ้านด้วย เหตุนี้จึงได้ชื่อว่าเทศกาลโคมไฟ กลายเป็นขนบธรรมเนียมที่ชาวจีนปฏิบัติสืบต่อมา เมื่อนำไปต้มพอเกี๊ยวสุกจะลอยขึ้นมา) เป็นอาหารประจำเทศกาลนี้จึงเรียกอีกอย่างว่า “หยวนเสี่ยว”

เทศกาลโคมไฟจื่อกง หรือ จี้กง (Zigong Lantern Show)
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมที่เมืองจื่อกง มณฑลเสฉวนและชาวเมืองปฏิบัติสือต่อมา ปัจจุบันเทศกาลจื่อกงให้การสนับสนุนเป็นงานประจำปี พร้อมกับจัดงานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจ โคมไฟจื่อกงทำจากไม้ไผ่จักสานอย่างประณีต ตกแต่งด้วยผ้าไหมและกระดาษสีสันงดงาม ถึงเวลามีงาน ชาวเมืองนำโคมไฟหลายอันมามัดเป็นรูปทรงต่างๆ ตกแต่งเพิ่มด้วยแสงและเสียง เท่านี้ทั้งเมืองก็งามสว่างไสว

**งานบุญประจำปีเขาเหมี่ยวเฟิง (Miaofeng Moutain)
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-15 เมษายนของทุกปี ที่เขาเหมี่ยงเฟิง ตำบลเมิ่นโถวโกว ทางตะวันตกของชานกรุงปักกิ่ง ผู้แสวงบุญจากทุกทิศทั่วประเทศจะเดินทางมาชุมนุมสวดมนต์ แต่เดิมในสมัยราชวงศ์เลี่ยวมีแต่เพียงวัดทางพระพุทธศาสนา ต่อมาจึงมีการสร้างวัดลัทธิเต๋าและขงจื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกปีช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งเขาจะอบอวลไปด้วยกลิ่นธูป คละเคล้ากลิ่นดอกไม้ โดยเฉพาะกุหลาบ เขาเหมี่ยวเฟิงขึ้นชื่อในเรื่องโขดหินที่สวยงาม แซมประดับด้วยต้นสนโบราณอายุนับร้อยๆ ปี และไม้ดอกกลิ่นหอมนานาพันธุ์

**เทศกาลเรือชินทงในหยางโจว (Qintong Boat in YangZhou)
ระหว่าง 4-6 เมษายนทุกปี ที่ตำบลชินทง เมืองหยางโจว มณฑลเจียงสู เป็นงานประเพณีท้องถิ่น เรือจากหมู่บ้านประมงในละแวกนั้นจะมาชุมนุมรื่นเริงกันที่เมืองซุนทง มีการแสดงและร้องรำทำเพลงกันบนเรือ เช่น ระบำมังกร ระบำสิงโต และอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งมีการแข่งเรือด้วย

**เทศกาลสาดน้ำ (Water Splashing Festival)
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี ที่ตำบลจิงหง (Jinghong) เมืองซีซวงปันนา (สิบสองปันนา) เขตถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อยเชื้อสายไตในมณฑลยูนนาน เทศกาลนี้มีที่มาจากตำนานเก่าแก่ ครั้งหนึ่งมีพญามารชั่วร้าย บังคับหญิงสาว 7 คนไปเป็นภรรยา นางทั้งเจ็ดได้ร่วมมือกันฆ่าตัดคอพญามาร แต่หัวพญามารที่หลุดจากบ่าหมุนควงไม่หยุดพร้อมกับมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา ไฟนี้จะหยุดเมื่อนางใดนางหนึ่งใน 7 นางอุ้มเอาไว้ ทั้ง 7 คน จึงสลับกันอุ้มหัวพญามารคนละ 1 ปี เมื่อครบกำหนดส่งต่อ ชาวเมืองจะพากันมาสาดน้ำนางคนที่พ้นหน้าที่เพื่อล้างเลือดและความชั่วร้ายที่ติดอยู่ตามกายนางออกไป ด้วยกริยาสำนึกในบุญคุณที่นางได้ช่วยให้พวกตนรอดพ้นจากความหายนะ ต่อมาแม้ว่าหัวของพญามารจะมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านไปแล้ว แต่การสาดน้ำใส่กันยังคงเป็นพระเพณีที่ชาวเมืองปฏิบัติสืบมา กิจกรรมระหว่างเทศกาล มีการแข่งขันเรือมังกร จุดบ้องไฟ และการเริงระบำรำฟ้อน

**เทศกาลโบตั๋นลั่วหยาง (Luoyang Peony Festival)
วันที่ 15-25 เมษายนของทุกปี ที่เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน สัญลักษณืของเมืองลั่วหยางคือดอกโบตั๋น 500,000 ตัน 350 สายพันธุ์ที่ปลูกในเมืองนี้ เย่าหวง (พันธุ์เย่าสีเหลือง) และเว่ยจึ (พันธุ์เว่ยสีม่วง) จัดเป็นราชาและราชินีเทศกาลโบตั๋นเริ่มจัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 15-25 เมษายน ค.ศ. 1983 และจัดติดต่อกันมาทุกปี ภายในงานนอกจากการแสดงไม้ดอกยังมีโชว์โคมไฟ นิทรรศการงานเขียนอักษร ภาพวาดและภาพถ่ายของจีน งานชุมนุมนักประพันธ์ และการเจรจาธุรกิจ ที่สวนพฤกษศาสตร์หว่างเฉิง มีเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้บริการผู้ที่ชื่นชอบโบตั๋นด้วย

**งานฉลองเจ้าแม่หมาจู่ (Goddess Mazu Festival)
วันที่ 25 เม.ย. และ 4 ตุลาคมของทุกปี ที่เกาะเม่ยโจว (Meizhou) ในพูเทียน (Putian) มณฑลผู่เจี้ยน เจ้าแม่หมาจู่เกิดเมื่อวันที่ 23 เดือน 3 ตามจันทรคติ ปีที่ 1 ในรัชสมัยพระเจ้าเจียนหลงแห่งราชวงศ์ซ่ง และตายวันที่ 9 เดือน 9 (จันทรคติ) อายุได้ 28 ปี เมื่อยังมีชีวิตอยู่เป็นคนใจบุญ ชอบเยียวยาผู้คนที่เจ็บป่วย สามารถพยากรณ์สภาพลมฟ้าอากาศได้อย่างแม่นยำ ชาวบ้านจึงยกให้เป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล และเจ้าแม่ผู้อำนวยพรแก่พวกเขา ศาลซึ่งสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกตั้งอยู่บนเกาะเม่ยโจว ทุกปีในวันที่ 23 เดือน 3 ทางจันทรคติซึ่งตรงกับวันเกิด และวันที่ 9 เดือน 9 ตามจันทรคติที่ตรงกับวันตาย ศาลเจ้าหมาจู่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาสักการะ หลายคนมาจากไต้หวัน

**เทศกาลว่าวเว่ยฟาง (Weifang Internataional Kite Festival)
ทุกวันที่ 20-25 เมษายน เมืองเว่ยฟาง มณฑลซานตง เว่ยฟางมีชื่อเสียงในการทำว่าวมานานกว่า 600 ปี เป็น 1 ใน 3 ของที่ตั้งโรงเรียนสอนทำว่าวของจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก (อีก 2 แห่งคือ เมือง ปักกิ่ง และเทียนจิน) งานว่าวนานาชาติประจำปีเริ่มจัดมาตั้งแต่ ค.ศ.1984 ช่วงเวลาที่มีงานทั่วทั้งน่านฟ้าเว่ยฟางเต็มไปด้วยว่าวนานาชนิดหลากสีสัน สาเหตุนี้ทำให้ได้รับยกย่องเป็นเมืองหลวงแห่งโลกของว่าว อีกทั้งสหพันธ์ว่าวนานาชาติมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เว่ยฟางด้วย ท่านที่ชื่นชอบว่าวไม่น่าพลาด เพราะจะได้ชมการแข่งว่าว ได้เลือกซื้อว่าวที่ดีที่สุด 10 ชนิด ได้ชมพิพิธภัณฑ์ว่าว การแสดงศิลปะพื้นเมืองที่อันเจียปูและช้อปปิ้ง

**เทศกาลแข่งขันเรือมังกร (Dragon Boat Festival)
วันที่ 5 เดือน 5 ตามจันทรคติ เป็นงานที่จัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จุดกำเนิดมาจากสมัยการสู้รบระหว่างแคว้น (475-221 ปีก่อนคริสตกาล) ณ วีหยวน กวีเอกผู้รักชาติถูกพระเจ้าฉู่ไหวหวางเนรเทศไปอยู่ถิ่นทุรกันดาร เนื่องจากพยายามกราบทูลมิให้ทรงหลงเชื่อคำกังฉิน ฌวีหยวน ไม่อยากเห็นความล่มจมของบ้านเมือง จึงฆ่าตัวตายในแม่น้ำมี่หลัวเจียงเมื่อวันที่ 5 เดือน 5 ชาวบ้านแถบนั้นเมื่อทราบข่าวพากันพายเรือออกไปช่วย แต่ไม่พบศพ กลัวว่าสัตว์น้ำทั้งหลายจะมากัดกิน จึงพร้อมใจกันนำข้าวห่อด้วยใบมักเวิร์ทโยนลงไปให้เป็นอาหารแทน เมื่อเวลาผ่านไปกลายเป็นประเพณีที่ชาวบ้านต้องพายเรือไปโยนข้าวห่อใบไม้ลงในแม่น้ำเพื่อระลึกคุณความดีของฌวีหยวน และพัฒนามาเป็นประเพณีการกินข้าวห่อใบไผ่ ทุกวันที่ 5 เดือน 5 ข้าวห่อใบไผ่นี้คือบะจ่างหรือบ๊ะจ่างนั่นเอง นอกจากนี้ยังถือเอาวันที่ 5 เดือน 5 เป็น “วันกวีแห่งชาติ” โดยจัดการแข่งขันพายเรือมังกร (ซึ่งเดิมทีเป็นการรีบพายเรือเพื่อไปช่วยชีวิตฌวีหยวน) ตามเมืองต่าๆง ที่มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นเมืองมี่หลัวซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ที่เฉิงตูเมืองหลวงของเสฉวนก็มีการจัดเรือประดับโคมฟแล่นตามลำน้ำหวงหลงซี (ธารมังกรเหลือง) มีแม่ย่านางหรือธิดาชาวเรือประจำแต่ละลำเพิ่มสีสันยามราตรีให้ครึกครึ้น ตอนกลางวันมีขบวนเชิดสิงโต แห่มังกร ปัจจุบันที่เมืองเยว่หยาง มณฑลหูหนาน มีการจัดแข่งขันพายเรือมังกรนานาชาติ ทุกวันที่ 10-14 มิถุนายน เป็นงานที่มีชื่อเสียงมาก มีเรือมาจากชาติต่างๆ เข้าร่วมแข่งขันกว่า 20 ลำ อาทิ เรือจากสหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตรเลีย และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

**เดือนท่องเที่ยวอู่ไท่ซาน(Wutai Moutain Tourist Month)
เมืองอู่ไท่ มณฑลซานซี ทุกวันที่ 25 มิถุนายน – 25 สิงหาคม เขาอู่ไท่หรือภู 5 หอ (เพราะมียอดเด่นสะดุดตา 5 ยอด) 1 ใน 4 ยอดภูพระพุทธของจีน เป็นสถานที่ตั้งของวัดอารามมากมาย งานวัดที่มีมาแต่โบราณปัจจุบันได้พัฒนาเป็นงานท่องเที่ยวระดับนานาชาติ พระสงฆ์จากทั่วประเทศจะมาชุมนุมกันที่นี่เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา สวดพระสูตร อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ ทำให้เกิดมนต์ขลังครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณ สำหรับฆราวาสมีกิจกรรมศิลปะพื้นเมือง งานล่อและม้า ที่สำคัญคือเป็นโอกาสที่จะได้เที่ยวชมหมู่วัดวาอารามที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวท้องถิ่น

**เทศกาลท่องเที่ยวนาดัม (Nadam Tourist Festival)
จัดขึ้นวันที่ 15 กรกฏาคมของทุกปี คำว่า “นาดัม” ในภาษามองโกลแปลว่า กาพักผ่อนหย่อนใจ งานนาดัมเป็นงานตามประเพณีของชาวมองโกลที่จะมาร่วมกันมีกิจกรรมสนุกสนานแรกเริ่ม เป็นแต่เพียงคนเลี้ยงสัตว์ทั่วภูมิภาคมารวมตัวกันเพื่อทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้าและจัดงานฉลองที่ฝูงสัตว์ของตนเจริญเติบโตอย่างดี ภายหลังกลายเป็นงานฉลองที่มีระยะเวลาถึง 10 วันในช่วงต่อของฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง กิจกรรมภายในงานมีการแข่งขันขี่ม้า ยิงธนู และมวยปล้ำ งานเลี้ยงอาหารแบบในวังหลวงยุคราชวงศ์หยวน การแต่งงานแบบชนกลุ่มน้อยเออร์ดอส พิธีบวงสรวงสุสานเจงกิสข่าน การท่องเที่ยวป่าน้ำพุร้อน การแสดงโชว์พื้นบ้านมองโกเลีย และการพูดคุญธุรกิจ

**เทศกาลเบียร์ชิงต่าว (Qingdao International Beer Festival)
เมืองชิงต่าว มณฑลซานตง กลางเดือนสิงหาคมของทุกปี เบียร์ชิงต่าวเป็นเบียร์ที่มีชื่อเสียงก้องโลก จนต้องจัดเป็นเทศกาลเริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1991 ที่ชิงต่าวทัวร์ริสต์รีสอร์ต ภายในงานมีการแสดงต่างๆ มากมาย พาเหรดของเหล่าศิลปิน แฟชั่นโชว์ พลุชายหาด การแข่งขันกีฬา การอภิปรายเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตเบียร์ และการเจรจาธุรกิจ

**งานโชทัน ทิเบต (Shoton Festival in Tibet)
กรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต เดือนสิงหาคม (จากปลายเดือน 6 ถึงต้นเดือน 8 ตามปฏิทินทิเบต) ในภาษาทิเบต โชทัน แปลว่า การเลี้ยงโยเกิร์ต งานเริ่มมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 17 ตามข้อบังคับทางศาสนาพุทธ พระสงฆ์จะต้องเก็บตัวอยู่แต่ในวันจนกว่าจะพ้นฤดูร้อน วันแรกหลังพ้นกำหนดเก็บตัว ชาวทิเบตนิยมนำโยเกิร์ตมาถวายพระ ที่ไปทิเบตในช่วงนี้จะได้ชม “ซันนิ่ง เดอะ บุดด้า” คือ การนำภาพพระพุทธเจ้าที่เก็บรักษาอยู่ในอารามออกมาคลี่ท่ามกลางแสงแดดเพื่อให้สาธารณธชนได้ชื่นชม ยังมีการแสดงโอเปร่าของทิเบตและงานแสดงสินค้า

**เทศกาลองุ่นซินเจียง (Xinjing Grape Festival)
เทอร์ปัน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทุกวันที่ 20-26 เมษายน การปลูกองุ่นในเมืองดังกล่าว เทอร์ปันทำกันมานานกว่า 2,000 ปีแล้วมีองุ่นประมาณ 100 พันธุ์ องุ่นขาวไม่มีเมล็ด และพันธุ์ที่ได้รับสมญานามเป็นไข่มุกเขียวของจีน มีราคาแพงที่สุด แหล่งปลูกองุ่นที่มีชื่อเสียงของเทอร์ปันอยู่ที่หุบเขาองุ่น “เมืองไข่มุกในทะเลทราย” นอกจากองุ่นสดผลิตผลแปรรูปอย่างลูกเกด และไวน์ของเทอร์ปันมีรสชาติเยี่ยมเช่นกัน เทศกาลองุ่นซินเจียงเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1990 ในงานมีการแสดงพิธีแต่งงานอุยกูร์ มาชแลบระบำพื้นเมือง ร้องเพลงและเต้นรำแบบโคโช การแข่งขันโฮมิ-เมลอน เที่ยวชมถนนองุ่นและเมลอน กองคารานวานอูฐย้อนอดีตอันรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหม

**เทศกาลศิลปะการต่อสู้เส้าหลิน (Shaolin International Mrtial Arts Festival)
เจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ทุกวันที่ 10-15 กันยายน เส้าหลินวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 1,500 ปี เป็นสำนักธรรมที่เปิดสอนวิทยายุทธ์ตั้งแต่ราชวงศ์ถัง มารุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิง เมืองเติงเฟิงซึ่งเป็นที่ตั้งวัดกลายเป็นศูนย์กลางของศิลปะและการต่อสู้ป้องกันตัว เทศกาลศิลปะการต่อสู้เส้าหลินจัดขึ้นก็เพื่อสืบทอดมรดกอันล้ำค่าของชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นและพัฒนาเศรษฐกิจ ในงานมีการแสดงและการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบเส้าหลิน การแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ของนักต่อสู้จากทั่วโลกและการล่องเรือชมทัศนียภาพตามแม่น้ำเหลือง

**จางเจียเจี้ย ฟอเรสต์ เฟสติวัล (Zhangjiajie Forest Festival)
จางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน เริ่มวันที่ 18 กันยายน จางเจียเจี้ยเป็นป่าสงวนแห่งแรกของจีน ภูมิประเทศงดงามมาก ที่โดดเด่นคือเสาหินควอทซ์ 3,103 ตัน ส่องแสงวาววับอยู่เหนือทะเลหมอก เนื่องจากมีป่าที่คงสภาพสมบูรณ์อยู่ถึง 97% จางเจียเจี้ยจึงเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหายากและมีราคานานาชนิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทัศนศึกษา ภูมิศาสตร์ ท่องเที่ยวป่า ล่องเรือในแม่น้ำเมาอัน หรือจะลงแข่งขันปีนเขาไต่หน้า ภาคบันเทิงมีการแสดงศิลปะ ซี่กงโชว์ และการแสดงไต่หน้าโดยชาวหมู่บ้านทูเจีย

**งานขงจื๊อ (Quifu International Confucian Festival)
เมืองชวีฝู่ มณฑลซานตง 26 กันยายน – 10 ตุลาคม ขงจื๊อมหาปราชญ์ผู้ได้รับยกย่องประดุจเทพ เกิดเมื่อวันที่ 27 เดือน 8 ตามจันทรคติ ปลายเดือนกันยายน 51 ปีก่อนคริสตกาล) ที่เมืองชวีฝู่ตั้งแต่โบราณมางานฉลองวันเกิดของขงจื้อจะจัดขึ้นที่ชวีฝู่ ซึ่งมีปูชนียสถาน ขงจื๊ออันโออ่า เป็นพิธีกรรมความเคารพบูชาอย่างยิ่งใหญ่ มีการบวงสรวงเช่น ไหว้ขงจื๊อ การแสดงดนตรีและร่ายรำ นิทรรศการชีวประวัติขงจื๊อ การเขียนอักษรจีน เที่ยวชมศาลเจ้า/สุสาน และพิพิธภัณฑ์ขงจื๊อ บ้านและสุสานตระกูลข่ง นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้ชมประเพณีแต่งงานตามแบบชวีฝู่ และชิมอาหารจากครัวตระกูลข่งด้วย

**งานฉลองกลางฤดูใบไม้ร่วง (Mid-Autumn Festival)
ทุกวันที่ 15 เดือน 8 ตามจันทรคติ มีงานฉลองทั่วประเทศ สมัยราชวงศ์โจว ((1600-1100 ปีก่อนคริสกาล) คืนวันพระจันทร์เต็มดวงคือ โอกาสที่ชาวจีนจัดพิธีต้อนรับอากาศเย็นและบูชาเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ถึงราชวงศ์ซ่งเหนือ กำหนดให้วันที่ 15 เดือน 8 เป็นงานฉลองกลางฤดูใบไม้ร่วง ยามราตรีของคืนนี้ ดวงจันทร์สว่างเต็มดวง ทอแสงสีเงินทั่วแผ่นดิน สมาชิกในครอบครัวจะมาร่วมกันชมจันทร์และรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ ประเพณีจีนถือวันที่ 15 เดือน 8 เป็นวันรวมตัวของครอบครัว มีขนมไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์

**เทศกาลหวงซาน (Mt.Huangshan Festival)
เขาหวงซาน มณฑลอันฮุย เดือนตุลาคม เทศกาลท่องเทียวนานาชาติงานนี้เริ่มจัดเมื่อ 25-30 ตุลาคม ค.ศ. 1991 โดยสำนักงานตัวแทนท่องเที่ยว 103 แห่ง จากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไทย ฝรั่งเศส เยอรมนี สิงคโปร์ ฯลฯ มีประชาชนไปร่วมงานถึง 500,000 คน ความสำเร็จของงานนี้ไม่เพียงชนะใจนักท่องเที่ยวที่มาเยือน แต่ยังสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้ต้องจัดเป็นงานประจำปี

**การประชุมการเขียนอักษรจีนฉางอาน (Chang’an Calligraphic Conference)
เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประมาณเดือน พฤศจิกายน แม้การประชุมการเขียนอักษรจีนฉางอานจะเป็นงานท่องเที่ยวระดับชาติที่สำคัญ แต่งานนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ที่ชื่นชอบอักษรจีนจากทั่วโลก ในมณฑลส่านซีเองก็มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย ภายในงานนอกจากจะมีการพบปะของนักเรียนอักษรจีนที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ยังมีนิทรรศการการเขียนอักษรจีน และการประมูลงานเขียนและภาพงาดของศิลปินจีนที่มีชื่อเสียง

**งานเซรามิกจิ่งเต๋อเจิ้น (Jingdezhen International Ceramics Festival)
เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มณฑลเจียนซี วันที่ 11-14 ตุลาคม เมืองจิ่งเต๋อเจิ้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของเครื่องเคลือบพอร์ซเลนเพราะคุณลักษณะเด่น 3 ประการ ลวดลายสวยงาม เนื้อใส ผิวราวกับหยกงานเซรามิก จิงเต้อจินจัดขึ้นเพื่อเยแพร่เครื่องกระเบื้องของจีน และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอุตสาหกรรมเครื่องกระเบื้องระดับนานาชาติ

**เทศกาลน้ำแข็งและหิมะที่ฮาร์บิ้น (Harbin Ice and Snow Festival)
เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง วันที่ 5 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ ฤดูเยือกแข็งที่ยาวนาน 190 วัน ทำให้ฮาร์บินซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนกลายเป็นเมืองน้ำแข็ง สภาพอากาศเย็นจัดทำให้แม่น้ำซงหัวกลายเป็นลานน้ำแข็งที่ที้งหนาและกว้างใหญ่ ที่ผู้มาร่วมงานใช้เล่นสไลเดอร์ ลากเลื่อน และกีฬาต่างๆ อย่างฮ็อกกี้ สเก็ต และสกีกันอย่างสนุกสนาน มีการนำน้ำแข็งก้อนใหญ่แกะสลักเป็นรูปต่างๆ ส่งประกวดชิงรางวัลนานาชาติ การแข่งขันสกีข้ามมณฑล งานแสดงภาพวาดและอักษรจีน งานแสดงภาพยนตร์ โชว์พื้นบ้านของชนกลุ่มน้อย

**เทศกาลดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ (Spring Flower Fair)
กวางโจว มณฑลกวางตุ้ง วันที่ 28-30 เดือน 12 ตามจันทรคติ ระหว่างรัชสมัยพระเจ้าเฉียนหลงเจียซิงแห่งราชวงศ์ซิง การค้าขายชาเฟื่องฟู ความต้องการดอกไม้เพื่อนำมาผสมในใบชาทำให้การปลูกดอกไม้ในจีนขายตัวอย่างรวดเร็ว ยุคของเซียนเฟิงและถงจื่อเริ่มมีการจัดงานดอกไม้ในหลายเมือง ระหว่างงานถนนหลายสายเรียงรายด้วยแผงขายดอกไม้ เช่น บัว ไลแลค นานดิน่า แมกโนเลีย มะลิ ปัจจุบันสามารถพบเห็นภาพเช่นนี้ ได้ที่เทศกาลดอกไม้เมืองกวางโจว ซึ่งเป็นส่วนหตึ่งของเทศกาลฉลองฤดูใบไม้ผลิ ก่อนถึงวันงาน ชาวสวนบรรทุกดอกไม้จากชานเมืองมาทางเรือ นำมาจัดเรียงตามถนน พอถึงงานชาวเมืองไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะออกมาเดินตามถนนเพื่อเลือกซื้อดอกไม้กลับไปตกแต่งบ้านเรือนของตน
ทัวร์จีน จึงได้รับความนิยมจากนักทอ่งเที่ยวไม่น้อย เพราะที่นี่เที่ยวได้ทั้งปี ทุกฤดีเช่นกัน
เครดิต : คู่มือนักเดินทางจีนโดยสำนักพิมพ์อทิตตา