เซิ่นเจิ้น
ภาพตึกสูง เทคโนโลยีอันทันสมัย แหล่งช้อปปิ้งสินค้าเลียนแบบขึ้นชื่อ และขุมทองของนักลงทุน ดูเหมือนจะกลายเป็นคำอธบายโลโก้ลำดับต้นๆ ที่ดึงดูดผู้คนจากทุกสารทิศให้เดินทางมาสู่ “เซิ่นเจิ้น” เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือถ้าแอบโรแมนติก ที่นี่ก็เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Needing You (หลิว เต๋อ หัวกับ เจิ้ง ชิ่ว เหวิน มาแสดงคู่กัน) ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้จัดการหนุ่มไฟแรงกับพนักงานสาวป้ำๆเป๋อๆ เขามายังเซิ่นเจิ้นเพื่อช่วยเธอที่พาซื่อไปเคลียร์ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อจนหลงทาง
ไม่ว่าจะเป็นภาพในมุมไหน เซิ่นเจิ้นก็ล้วนถูกพลิกโฉมไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่เติ้ง เสี่ยว ผิง จัดเซิ่นเจิ้นเป็นพื้นที่ทดลองเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยมีอำนาจในการวางแผนขึ้นตรงกับรัฐบาลกลางเมื่อปี ค.ศ. 1980 จากเมืองที่มีเพียงชุมชนประมงเล็กๆ กระจัดกระจาย กับประชากรเพียงไม่กี่หมื่นคนส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่พูดภาษาจีนสำเนียงแคะ ปัจจุบันพื้นที่ของนครเซิ่นเจิ้นได้ขยายตัวออกไปกว่า 2,000 ตรม. มีประชากรราว 12 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด การันตีได้จากค่า GDP จากสำรวจครั้งล่าสุดนั้นสูงถึง 35.7 เปอร์เซ็นต์ และยังถูกจัดอันดับมาจากรัฐบาลจีนให้เป็นเมืองที่มีความสามารถทางการแข่งขันเป็นอันดับสองของประเทศ รองจากฮ่องกง โดยทิ้งอันดับ 3 และ 4 อย่างเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่งชนิดไม่เห็นฝุ่น อีกทั้งยังมีท่าทีเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชาวจีนทั่วไปรู้ดีว่าที่นี่นอกจากจะเป็นเมืองที่มีการจัดแบ่งย่านชุมชน ย่านธุรกิจ สวนสาธารณะเอาไว้เป็นสัดส่วน จนได้รับเลือกให้เป็นการ์เด้นซิตี้จากองค์การสหประชาชาติประจำปี 2000 แล้ว แล่ของคนทำงานถือว่าเป็นพื้นที่ของโอกาสอย่างแท้จริง
การท่องเที่ยว ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมทั้งหมดของเมือง แม้เซิ่นเจิ้นจะมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่พื้นที่ค่อนข้งน้อยเมื่อปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่อุตสาหกรรมไอทีเป็นตัวหลัก แต่ที่นี่ก็มีข้อได้เปรียบคือ อยู่ใกล้ฮ่องกงตัวเลขของคนที่ไปมาระหว่าง 2 เมืองอยู่ที่ 1,000 ล้านคนต่อปี ถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวปีละ 5 หมื่นล้านหยวน และเป็นศูนย์รวมการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั้งเรือ รถไฟ สายการบินต่างๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์จีนเอง เป็นที่รู้กันดีว่า ที่นี่ไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเหมือนปักกิ่ง กับเซี่ยงไฮ้ แต่ผ้าเยือนส่วนใหญ่จะตื่นตากับสิ่งก่อสร้าง หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากกว่า
ธีมพาร์คที่ทันสมัยและมีมากที่สุดอยู่ในประเทศจีนอยู่ที่นี่ ซึ่งตอนนี้รัฐบาลเซิ่นเจิ้นกำหนดที่จะวางแผนขยายตลาด เรื่องการท่องเที่ยวกับเรื่องเฟสติวัลต่างๆ ด้วย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่จะขาดแคลนแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ฮวงจุ้ยประจำเมืองอย่างวัดมังกรฟ้า (Hong Fa) ก็มักเป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ ของนักท่องเที่ยวเสมอ วัดแห่งนี้วากันว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ฮวงจุ้ยของเมืองเซิ่นเจิ้น ซึ่งเมื่อมีการสร้างวัดนี้แล้วก็ทำให้เมืองเติบโตมาก โดยช่วยหนึ่งเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเติบโตมากที่สุดของจีนเลยทีเดียว ฮวงจุ้ยที่ว่านี้วัดอยู่บนทำเลที่มีด้านหน้าเป็นน้ำคือทะเลสาบ ตำนานนางฟ้า (Fairy Lake) และด้านหลังเป็นเขา
วัดฮงฟาจะมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นแรก และชั้น 2 จะเป็นที่ประดิษฐานของพระศากยมุณี (ปึงซือเช็กเกียมออนีฮุก) พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนชั้น 3 จะเป็นส่วนหอไตร และที่พักสำหรับให้พระจากวัดอื่นจำวัด
ใกล้ๆ กันยังเป็นที่อยู่ของ สวนพฤกษศาสตร์ (Fairy lake Botanical Garden) ที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้กว่า 4,000 ชนิด รวมทั้งป่าหินที่เกิดจากการบีบอัดของชั้นดินตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือสำหรับใครที่ชอบความตระการตา Window of the world ก็เป็นศูนย์รวมสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก เช่น หอไอเฟล ประตูชัยฝรั่งเศส พีระมิด ทัชมาฮาล ภูเขาไฟฟูจิ หรือแม้แต่พระบรมมหาราชวังของไทยเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อึ้ง และทึ่งในความสามารถด้านการท่องเที่ยวของที่นี่ และที่สุดจุดหมายปลายทางของทุกคนคือการช้อปปิ้ง
นอกจากย่านหัวเฉียงเป่ง ย่านธุรกิจหลักที่เป็นแหล่งอิเล็กทรอนิกส์ทำรายได้ตกวันละ 200 ล้านหยวนแล้ว เซิ่นเจิ้นกับแหล่งช้อปปิ้งเป็นภาพที่แยกกันไม่ออก โดยเฉพาะที่หลอวู่ และตงเหมิน
หลอวู หรือ มาบุญครองเซิ่นเจิ้นนี้ กระเป๋า (คล้าย) แบรนด์เนม นาฬิกาเรือน (เกือบ) หรูถือว่าติดปากนักท่องเที่ยวทุกคนเมื่อเป็นแหล่งยอดนิยม ความระมัดระวังก็ควรจะมีมากขึ้นด้วย สิ่งยั่วใจที่อาจจะทำให้เงินในกระเป๋าหายไปโดยไม่รู้ตัวแล้วเรืองเงินปลอม แก๊งค์ลักขโมย รวมั้งของย้อมแมวก็มีมากไม่แพ้กัน เรียกว่าชิงไหวชิงพริบกันพอดู แต่สำหรับขาช้อปอย่างคนไทย ที่ผ่านสมรภูมิจตุจักร คลองถม สำเพ็งมาแล้ว ที่นี่ก็นับเป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
หรือถ้าสนใจบรรยากาศยามค่ำคืนแสงสีและเซิ่นเจิ้นก็ถือเป็นอีกฉากหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นแสงสีที่ไม่เคยหลับไหลของเซิ่นเจิ้นอีกด้วย แต่ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมก็คือ ความระมัดระวังตัวกับมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรุปแบบต่างๆ และความระมัดระวังใจไม่ให้หลงเผลอไผลกับราคาสินค้าด้วยเช่นกัน
หากท่านได้มีโอกาสมาทัวร์จีนสักครั้ง ต้องหาโอกาสมาเยือนสถานที่เหล่านี้ให้ได้