อาหารเช้าชาวศรีลังกา
อาหารการกินของศรีลังกา (น่าลอง)
ชาวสิงหลซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของศรีลังกา จะนิยมทำอาหารกินกันเองภายในครองครัว โดยทำเป็นสำรับใหญ่ ประกอบด้วยกับข้าว 3-4 ชนิดเป็นอย่างน้อย ทานกับข้าวสวย ดังนั้นการทำอาหารสำรับหนึ่งของชาวสิงหลจึงเป็นเรื่องที่ต้องตระเตรียมข้าวของเครื่องแกง และเครื่องปรุงมากมาย นอกจากนี้ชาวสิงหลยังชอบกินของว่างจำพวกขนมปัง แบบอย่างฝรั่งที่เรียกกันว่า “สแน็ก” (Snack) มีร้านขายของกินของเล่นมากกว่าร้านอาหาร และแม้แต่ในร้านขายอาหารเองก็ขายของกินเล่นหรือของว่างควบคู่ไปกับอาหาร มีขายทั้งบรรจุห่อและตามร้านเบเกอรี่ทั่วๆ ไป
ร้านน้ำชาส่วนใหญ่มักจะขายขนมปังจำพวกเพสตรี หรือของหวานพื้นเมืองที่หวานชนิดเข็ดฟัน บิสกิต คุกกี้ มีทั้งรสมะพร้าวและรสช็อคโกแลต ซึ่งเป็นรสยอดนิยมทั้ง 2 รส เค้กทั้งหน้าครีมและไม่มีหน้า ขนมอบต่างๆ ซึ่งทำมาจากแป้งสาลี จนถึงขนมหวานแบบพื้นเมือง ส่วนใหญ่ทำมาจากนม มะพร้าว น้ำตาล และเนย ชาวสิงหลนิยมดื่มชาแบบฝรั่งคือ ใส่นมและน้ำตาล แต่ไม่หนักนมหรือแก่ชา ไม่ใส่เข้มข้นเหมือนชาอินเดีย รสชาติจะกลมกล่อม มีส่วนผสมของชา นม และน้ำตาลใรระดับพอดี นอกจากนั้นก็ยังนิยมดื่มน้ำมะพร้าวที่มีอยู่มากมายตามธรรมชาติ
ร้านอาหารศรีลังกาตามเมืองใหญ่จะนิยมติดเครื่องปรับอากาศมีบางแห่งที่ขายอาหารหลากหลายชนิด และมีหลายร้านให้เลือกมาอยู่รวมกันรูปแบบเหมือนศูนย์อาหารตามศูนย์การค้าในเมืองไทยโดยทั่วไป ในศรีลังกาไม่มีรถเข็นขายอาหารริมถนนหรือแผงลอย แต่จะมีรถเข็นขายของกินเล่น เช่น ของหวาน หมากพลู ของเคี้ยวเล่น โดยเฉพาะจะมีมากตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ตลาด เป็นต้น แต่ขอไม่แนะนำเพราะอาจจะไม่สะอาดพอ ทำให้เกิดท้องเสียได้ หากเราไม่คุ้นเคยและไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเหมือนกับคนท้องถิ่น อย่างเดียวที่ปลอดภัย ก็คือ “ชาร้อน” ที่มีชื่อเสียง แถมรสชาติแสนอร่อย
ท่านใดที่มาทัวร์ศรีลังกาแล้ว ก็คงจะคุ้นตากับอาหารเหล่านี้ไม่น้อย ทั้งหน้าตาและกลิ่นของเครื่องเทศ รสชาติที่จัดจ้าน ดูแปลกตาไปจากอาหารทางบ้านเรามาก
อาหารมื้อเช้าของชาวศรีลังกา
1. ฮอปเปอร์ (Hoppers) อินเดียจะเรียกว่า “อาโปม หรือ อัมปา” (Appa) รูปร่างหน้าตาคล้ายขนมครกมาก แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า 3-4 เท่า ตรงกลางจะเป็นแป้งนุ่มหนา รอบข้างจะกรอบ ในเมืองไทยก็มีขายตามร้านในชุมชนชาวมุสลิมที่มีเชื้อสายบรรพบุรุษมาจากอินเดียทางใต้ ในเมืองไทยก็กินฮอปเปอร์หรืออาโปมคู่กับแกงไตปลา หรือปลาอินทรีย์ทอดชิ้นโตๆ อร่อยดีถึงรสเครื่องเทศ หากไม่ชอบเผ็ดก็สามารถนำอาโปมจิ้มทานกับน้ำตาลทรายแดงก็ได้
2. สตริงฮอปเปอร์ (String Hoppers) อินเดียเรียกว่า “อีเลียอาโปม” หรืออินดิอัปปา (Indi Appa) หน้าตาคล้ายเส้นหมี่หรือก๋วยเตี๋ยวหลอดเส้นเล็กฝอย แต่จะเหนียกว่าและจับตัวเป็นก้อน มีขนาดใหญ่กว่าขนมถ้วยนิดหน่อย รูปร่างลักษณะคล้ายขนมเรไร ทั้งฮอปเปอร์และสตริงฮอปเปอร์ควรกินด้วยมือจะอร่อยได้รสชาติมากขึ้น การทานอาหารของศรีลังกาทุกมือควรกินด้วยมือจะเพิ่มความอร่อยและได้บรรยากาศแท้ๆ เช่นเดียวกับคนไทย เวลากินน้ำพริกปลาทูให้อร่อยถึงรสต้องเปิบด้วยมือสถานเดียว เวลากินสตริงฮอปเปอร์จะราดด้วยแกงกะทิผสมขมิ้นและเครื่องเทศบางชนิด กินกับไข่ต้มสุก 1 ฟอง ลอยมากับน้ำแกงสีเหลืองขมิ้น 1 ถ้วย
3. ซัมบาล (Sambal หรือ Pol Sambal) เป็นมะพร้าวขูดผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย เหยาะเกลือและพริกแห้งลงไป แล้วคละเคล้าจนได้ รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนิด เค็มหน่อย
4. โยเกิร์ต (Yokert) ทำมาจากนมควาย บรรจุในห้อมดินเผาปิดฝาด้วยใบตองบ้าง กระดาษบ้าง แล้วรัดปากหม้อด้วยเชือกใยมะพร้าวมีหลายขนาด เวลารับประทานมักราด้วยน้ำผึ้ง หรือน้ำหวานจากต้นตาลและมะพร้าว หรือรับประทานโยเกิร์ต(นมเปรี้ยว) อย่างเดียว ล้วนๆ ก็ได้ บางครั้งแม่ครัวจะนำนมเปรี้ยวนี้ไปประกอบอาหารจำพวกแกงบางชนิด โดยใช้แทนกะทิ
5. กีไรซ์ (Ghee Rice) กี แปลว่า เนย เป็นข้าวหุงกับเนย ใส่เครื่องสมุนไพร มีสีเหลืองของเครื่องเทศผสม บางครั้งใส่ลูกเกด ถั่วอัลมอนด์ ผลหญ้าฝรั่น อบเชย กานพลู ลูกกระวาน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ข้าวปุเหล่า” หากต้องการใส่เนื้อสัตว์เพิ่มเติมลงไป นิยมใส่เนื้อตรงอกไก่ ไม่ติดหนัง หั่นเป็นรูปลูกเต๋า
Cr. ข้อมูลจากคุณไพรัตน์ สูจกิจบูลย์