สุดอลังการ หมู่เกาะต้นปาล์ม ที่ดูไบ
มาทำความรู้จักกันเถอะ
ดูไบเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และถือเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เพราะมันได้เปลี่ยนจากดินแดนทะเลทรายมาเป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งในด้านการค้า บริการ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆ มากมาย ไม่จำกัดเพียงแค่การค้าน้ำมันเหมือนในอดีต
หมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm Islands) เป็นโครงการสร้างเกาะจำลองในอ่าวเปอร์เซียที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ละเกาะมีรูปร่างคล้ายต้นปาล์มและล้อมรอบด้วยวงกลมที่เป็นเสี้ยว โดยพื้นที่ของเกาะเหล่านี้จะถูกพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยและรีสอร์ท โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการท่องเที่ยวของดูไบ ซึ่งประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ปาล์ม Jumeirah, ปาล์ม Deira และปาล์ม Jebel Ali
แนวคิดการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะที่มีรูปร่างคล้ายต้นปาล์มเกิดจากพระราชดำริของเชค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิต อัล มาคทูม (Sheikh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum) เจ้าผู้ปกครองเมืองดูไบ นายกรัฐมนตรีและรองประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พระองค์ทรงมุ่งหวังที่จะพัฒนาดูไบให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของตะวันออกกลาง โดยเริ่มต้นจากการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะที่มีรูปร่างเป็นต้นปาล์มที่มีลักษณะและขนาดแตกต่างกัน
แต่ละเกาะมีลักษณะเฉพาะ โดยมีส่วนโค้งล้อมรอบต้นปาล์มเป็นจุดศูนย์กลางของเกาะซึ่งมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และเป็นที่ตั้งของโรงแรม ที่พักอาศัย และร้านค้า เชื่อมต่อกับพื้นดินของดูไบผ่านสะพานและรถไฟลอยฟ้ายาวประมาณ 5.4 กิโลเมตร ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดประมาณ 2,000-3,000 คนต่อเที่ยว
ส่วนที่สองคือก้านใบ 17 ก้าน ซึ่งเป็นพื้นที่พักอาศัย ส่วนสุดท้ายคือวงโค้งรอบต้นปาล์มยาว 11 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ที่พักอาศัย และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันมีผู้อาศัยอยู่บ้างแล้ว การสร้างเกาะทั้ง 3 แห่งนี้ทำให้ดูไบมีพื้นที่ชายหาดเพิ่มขึ้นถึง 520 ตารางกิโลเมตร
โครงการ "Palm Jumeirah" เป็นโครงการแรกในกลุ่มหมู่เกาะต้นปาล์ม มีขนาดพื้นที่ประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร และถูกล้อมรอบด้วยเขื่อนหินทิ้งขนาด 7 ล้านตัน ซึ่งมีความยาวประมาณ 11 กิโลเมตร เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นว่าเขื่อนสร้างเป็นแนวคันเขื่อนรูปวงกลม
โครงการนี้เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 2001 และออกแบบให้มีแนวอาคารเรียงรายตลอดแนวเขื่อน ซึ่งทำให้ชายฝั่งทะเลของดูไบยาวขึ้นอีก 78 กิโลเมตร Palm Jumeirah ประกอบด้วยบ้านวิลล่าชายทะเลจำนวน 1,400 หลัง และอพาร์ทเมนต์หรูประมาณ 2,500 หน่วย โดยผู้พักอาศัยสามารถย้ายเข้าได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 โครงการยังมีท่าจอดเรือยอชต์สำหรับผู้พักอาศัย
ลักษณะของผังเกาะเมื่อมองจากด้านบนจะเป็นรูปลำต้นปาล์มขนาดยักษ์ โดยมียอดเป็นแนวของใบปาล์ม 17 แนว ล้อมรอบด้วยเขื่อนกั้นคลื่นในลักษณะรัศมี
ในส่วนของลำต้นของ Palm Jumeirah จะมีอาคารทรงยาวที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงสวนน้ำขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นทันสมัยหลายประเภท ร้านอาหารนานาชาติที่หลากหลาย เช่น ภัตตาคารยุโรป อาหารทะเล อาหารอาหรับ และฟาสต์ฟู้ด ศูนย์การค้าที่มีสินค้าชั้นนำจากยุโรปและอเมริกา เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังมี Taj Exotica Resort & Spa ซึ่งเป็นสปาชั้นเยี่ยมระดับโลก โรงแรมระดับสี่ดาวถึงหกดาว โดยราคาค่าห้องอาจสูงถึงหลักหมื่นเหรียญอเมริกันต่อคืน
ยังมีกิจกรรมกีฬาในร่ม เช่น สกีโดมที่สร้างศูนย์เล่นสกีหิมะในร่ม ส่วนบริการกลางนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2004 และโครงการทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2008
การก่อสร้างใช้เวลา 7 ปี ใช้แรงงานก่อสร้างจากแหล่งงานสำคัญจากประเทศต่างๆจากเอเชียใต้ เช่นอินเดีย ปากีสถาน และบังคลาเทศ เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นแรงงานราคาถูกที่สุด โดยทำงานผลัดกัน 2-3 ช่วง/วัน ช่วงละ 8 ชั่วโมง แล้วแต่อุณหภูมิในฤดูต่างๆ ซึ่งช่วยให้การก่อสร้างรุดหน้าได้อย่างรวดเร็วและเสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่กำหนด
โครงการ The Palm Jumeirah ได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก ด้วยการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกาะขนาดมหึมานี้เหมือนปรากฏขึ้นจากทะเล ทำให้แผนที่โลกที่เราเคยใช้ต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างไม่ต้องสงสัย
บอกแล้ว ว่านี่มันอลังการสุดๆ มีโอกาสสักครั้งในชีวิตต้องไปให้ได้เลย! นอกจากหมู่เกาะเดอะปาล์มแล้ว ดูไบยังมีที่เที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย หากสนใจไปเที่ยวดูไบ ทัวร์ดูไบ คลิ๊กชมรายละเอียดได้เล๊ยยยย