ประวัติความเป็นมาของเสาโทริอิ
ประวัติความเป็นมาของ เสาโทริอิ
สัญลักษณ์อีกอย่างอย่างของประเทศญี่ปุ่น นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังมีเสาโทริอิที่เมื่อเห็นแล้ว ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า ต้องเป็นประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง รู้หรือไม่ว่า ทำไมเสาโทริอิถึงมีสีแดง และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร วันนี้นางฟ้าจะเล่าให้ฟังกันจ้า
คำว่า โทริอิ ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง นก ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่า นกเป็นสัตว์ที่สื่อสารและเกี่ยวข้องกับชีวิตหลังความตาย ซึ่งความเชื่อนี้มาจากการทำพิธีศพของ ยะมะโตะ ที่ถูกบันทึกและกล่าวขานตั้งแต่โบราณมา โดยกล่าวว่า เมื่อยามะโตะได้เสียชีวิตไป ได้ปรากฏว่ามีนกสีขาวปรากฏขึ้นและบินไปเลือกสถานที่ฝังศพของตัวเอง และตายอยู่ตรงนั้น จึงทำให้สถานที่ฝังศพของยะมะโตะ ถูกเรียกว่า ชิระโทะริ มิซะซะงิ มีความหมายว่า "สุสานนกสีขาว" นั่นเอง
เสาโทริอิ คือ ซุ้มประตู ที่สร้างเอาไว้เพื่อบอกอาณาเขตพื้นที่หลังซุ้มนี้ คือ อาณาเขตของเทพเจ้า เพื่อให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา เกิดความสำรวมไม่แสดงพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นเทพเจ้านั่นเอง เสาโทริอิ จะพบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่จะมีมากที่สุดคือ ทางเข้าของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ในเกียวโต ซึ่งมีเสาโทริอิกว่าหมื่นต้นเลยทีเดียว การตั้งโทริอิจึงตั้งตามที่พื้นที่จะเอื้ออำนวยและไม่ได้คร่อมอยู่บนทางเดินไปศาลเจ้าเสมอไป ซึ่งบางแห่งก็สร้างในแม่น้ำ หรือ ในป่าเขา ก็สามารถพบเห็นได้
เสาโทริอิ ไม่เพียงแต่จะสะท้อนถึงศิลปะและความเชื่อในสมัยก่อนที่ยังถูกถ่ายทอดสู่รุ่นปัจจุบัน นอกจากจะเต็มไปด้วยความศรัทธาของชาวญี่ปุ่นแล้ว เสาโทริอิด้วยสีสันที่ค่อนข้างเตะตาทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ญี่ปุ่น หรือมาเที่ยวญี่ปุ่น กันไม่ขาดสาย ที่ใดมีเสาโทริอิ นักท่องเที่ยวต้องได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเสมอ แม้แต่ในประเทศไทย คาเฟ่ใดที่จำลองเสาโทริอิมาไว้ในคาเฟ่ ก็จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเสมอ
ประเทศญี่ปุ่น ยังเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก เพราะเที่ยวได้ทุกฤดู สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น สามารถคลิกได้ ที่นี่