ดาลัด เมืองแห่งดอกไม้
เมืองที่ทำให้คุณหลงไหลในธรรมชาติ
วันหยุดนี้หากคุณกำลังมองหาเมืองที่อากาศเย็นสบาย ไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก และมีกลิ่นอายของเมืองแถบยุโรป ที่สำคัญค่าใช้จ่ายไม่สูงมากล่ะก็ ขอแนะนำมาเที่ยวเวียดนาม เมืองดาลัค น่าจะตอบโจทย์ที่ว่าได้ เมืองดาลัคเป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดลามดงทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม แม้จะเป็นเมืองค่อนข้างใหม่เพราะเพิ่มสร้างเมื่อประมาณช่วงปลายยุค 1890 (ถ้าเทียบกับโฮจิมินต์ซิตี้หรือเมืองในแถบนี้ แต่ที่นี่ก็สามารถเดินทางได้สะดวกจากเมืองไทย ด้วยเที่ยวบินตรงสู่โฮจิมินห์ซิตี้ แล้วก็นั่งรถประจำทางในตอนค่ำมาเช้าตรู่รับอรุณวันใหม่ที่ดาลัดกัน แต่ถ้าจะนั่งเครื่องมาก็มีหลายสายการบินที่เดินทางจากเมืองต่างๆ ของเวียดนามมาลงที่นี่ แล้วแต่งบประมาณของแต่ละท่าน
ด้วยเดิมดาลัดเคยเป็นเมืองที่ถูกฝรั่งเศสเข้ามาปรับปรุงช่วงที่ยึดเวียดนามเป็นอาณานิคมทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ รวมไปถึงวิถีชีวิตการกินและความเป็นอยู่บางอย่างมีการผสมผสานกันอยู่กับวิถีดังเดิมของชาวเวียดนาม อีกทั้งเป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขา ทำให้อากาศดีเย็นสบายตลอดทั้งปี เพื่อให้ได้สัมผัสกลิ่นอายของยุโรปและยังไม่หลุดไปจากวิถีชีวิตที่เป็นอยู่มากนัก ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่นี่เป็นจุดหมายในการพักผ่อนตากอากาศ
การเที่ยวในดาลัด สามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง หรือซื้อทัวร์เวียดนามแบบวันเดย์ทริปก็ได้โดยมากจะมีอยู่บริเวณย่านฟามงูหลาว ในซอยใกล้ๆ เวียดซี สำหรับฉันเลือกเช่ามอเตอร์ไซด์ ที่ร้านใกล้โรงแรมตะเวนไปดูแต่ละสถานที่ตามใจตัวเอง เพราะที่เที่ยวแต่ละที่ไม่ได้ไกลมากนัก อยู่รอบๆ ตัวเมืองดาลัดนั่นเอง ฉันเริ่มต้นจากสถานที่แรกที่แทบทุกคนต้องแวะ นั่นก็คือ พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได่ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง ที่นี่เป็นพระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได่ จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม ถูกออกแบบตามลักษณะแนวตะวันตก สถาปัตยกรรมของตัวตึกคล้ายๆ ตึกแถวราชดำเนินของเรา ที่นี่เปิดให้เข้าชมด้านใน ซึ่งยังคงมีเครื่องเรือนและของใช้จำนวนมากที่ยังสภาพเดิมไว้ นอกจากนั้นยังมีห้องรับแขก ห้องประชุม และห้องทรงงาน ฯลฯ บรรยากาศโดยรวม เงียบขรึม ตามลักษณะวังแบบโบราณ สิ่งที่สะดุดตาฉัน คงเป็นของตกแต่งและใช้สีแบ่งแยกอย่างชัดเจน เช่น ห้องพระราชโอรส เป็นโทนสีฟ้า ห้องพระราชธิดาเป็นโทนสีชมพู เป็นต้น เสร็จจากเดินชมวัง ฉันก็ขับมอเตอร์ไซด์ ตรงไปยังเทือกเขาโรบินฮิล (Robin Hill) ซึ่งเป็นจุดขึ้นเคเบิลคาร์ของเมืองดาลัด เพื่อจะขึ้นไปชมวิวเมืองดาลัดแบบพาโนรามากัน เคเบิ้ลคาร์ที่นี่ให้อารมณ์คล้ายๆ กับที่เคยขึ้นที่ฮ่องกง ต่างกันแต่ว่าวิวของวันนี้ไม่ใช่วิวทะเล แต่เป็นทิวเขาสีเขียวชอุ่มของป่าสน บางจุดจะเห็นต้นลูกพลับ ดูแล้วสบายใจดี แต่หากใครกลัวความสูงไม่แนะนำเลย ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ถึงปลางทางเป็นวัดเก่าแก่นิกายเซน แบบญี่ปุ่น ชื่อวัดตั๊กลัม แม้แดดจะแรงสักหน่อย แต่อากาศก็ไม่ถึงกับร้อนมาก อาจด้วยเป็นเพราะทัศนียภาพโดยรอบของวัดที่เป็นสวนดอกไม้ล้อมรอบ บวกกับความสงบเงียบของตัววัดก็เป็นได้ที่ทำให้ฉันรู้สึกสงบอย่างประหลาด แล้วเวลามองลงไปด้านล่างเห็นทะเลสาบสวรรค์ ยิ่งทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจมากทีเดียว
นอกจากนั้นที่ดาลัด ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ เช่น เครซี่เฮาส์ (Crazy House) หรือ (Hang nga Guest House and Art Gallery) บ้านตุ๊กตาและแกลลอรีศิลปะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่โด่งดังด้วยคอนเซ็ปต์ อันแปลกแหวกแนวในรูปแบบเหมือนกับบ้านต้นไม้ ผลงานการออกแบบของสถาปนิก Dang Viet Nga สถานีรถไฟดาลัด ที่สร้างตั้งแต่ปี 2486 เป็นสถานีรถไฟขนาดเล็กที่มีรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ แบบดั้งเดิมให้บริการระยะสั้นๆ ประมาณ 5 กิโลเมตร เปิดบริการแค่ 5 เที่ยวต่อวันและสามารถนั่งได้เพียง 4-5 คนต่อเที่ยวเท่านั้น หรือสวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ทางเหนือของทะเลสาบชวนเฮืองที่อยู่ใจกลางเมืองดาลัด ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์กว่า 300 สายพันธุ์ที่ผลัดกันออกดอกตลอดทั้งปี ไว้ช่วงเทศกาลดอกไม้ประจำปี ฉันจะแวะกลับมาเที่ยวเวียดนาม ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สูดกล่นไอเย็นอันบริสุทธิ์ที่ดาลัดอีกครั้ง