คำชะโนด
ถ้าพูดถึงสถานที่ในประเทศไทยที่รวบรวมเอาตำนานและความเชื่อไว้ด้วยกัน จนทำให้ผู้คนทั่วสารทิศ หลั่งไหลเดินทางมาด้วยพลังแห่งความศรัทธาหนึ่งนั้นจะต้องมีชื่อของ เกาะคำชะโนด ทัวร์คำชะโนด ทัวร์ไทย จ.อุดรธานีนั่นเอง
คำชะโนด มาจากภาษาท้องถิ่นอีสานคือ "คำ" แปลว่า พื้นที่ชุ่มน้ำ มีน้ำผุดตลอดปี และมีต้นชะโนดขึ้น จริงๆ แล้ว ชะโนด เป็นภาษาเขมร แปลว่า โตนด ตระกูลต้นตาล นั่นเอง
คำชะโนดมีพื้นที่ทั้งหมด 419 ไร่ เป็นพื้นทีเกาะคำชะโนด 30 ไร่ ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านตำบลบ้านม่วงทั้ง 14 หมู่บ้าน จากการสำรวจเมื่อปี 2559 บนเกาะคำชะโนดมีต้นชะโนด 2,242 ต้น ปัจจุบันมีคนมาเยือนมากกว่าปีละล้านคน จึงมีการตั้งคณะกรรมการบริหารคำชะโนดขึ้นมา คำชะโนดเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2532 ที่มีตำนานเรื่องผีจ้างหนัง และที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักเช่นทุกวันนี้เนื่องจากมีละครนาคี เริ่มออนแอร์ ยิ่งเรียกนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอุดรธานีได้มากขึ้น
สำหรับทางเข้าคำชะโนดจะมีสะพานนาคราชทอดยาว แต่จุดสังเกตคือ บริเวณกลางสะพานจะมีรอยต่อ เนื่องจากเคยสร้างแล้วมีการหักของสะพานไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เลยต้องตัด และตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ บอกไว้ว่า ท่านไม่อยากให้เชื่อมกัน ให้แบ่งเป็นฝั่งโลกมนุษย์ และ บาดาล
เมื่อเกาะคำชะโนด เต็มไปด้วยต้นชะโนด ก็จะแข่งกันสูงเพื่อแย่งรับแสงแดดทำให้มีความสูงกว่า 40 เมตร กลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นต้นไม้ 1 ใน รุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
เมื่อเดินข้ามสะพานเข้าไป จุดแรกที่พบคือ ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา และก็จะพบกับพ่อจ้ำ (พราหมณ์) ที่เป็นตัวแทนของหมู่บ้านทำหน้าที่ประกอบพิธีตามทางด้านความเชื่อต่างๆ ทางด้านศาสนา
ณ ที่แห่งนี้ ถูกจัดไว้เป็น 3 โซนด้วยกัน โซนแรกคือ ศาลพิธีกรรม (ศาลพ่อปู่แม่ย่า) โซนที่ 2 คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และ โซนที่ 3 คือ ต้นมะเดื่อยักษ์
ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักจะมาขอพรทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ความรัก โชคลาภ หน้าที่การเงิน สำหรับผู้ที่จะมากราบสักการะที่นี่ สิ่งแรกคือต้องเตรียมใจ ใจที่พร้อมจะเคารพบูชา เมื่อเข้ามาแล้ว สิ่งที่ต้องนำมาก็คือ ขัน5 (ดอกไม้ ธูป เทียน)
วังนาคินทร์คำชะโนด หรือชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า เมืองชะโนด สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของตำบลวังทอง ตำลบบ้านม่วงและตำบลบ้านจันทร์อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีวังนาคินทร์คำชะโนด หรือ เมืองคำชะโนดมีเรื่องเล่ากันมาว่า
เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธเป็นพญานาค ครองเมืองหนองกระแสครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเป็นพญานาคเช่นเดียวกันปกครองมีชื่อว่าสุวรรณนาค และมีบริวารฝ่ายละ 5,000 เช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมีอาหารการกินก็แบ่งกันกิน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นเพื่อนตายกันตลอดมา แต่มีข้อตกลงกันอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกไปหากินล่าเนื้อหาอาหารอีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องออกไปล่าเนื้อหาอาหารเพราะเกรงว่าบริวารไพร่พลจะกระทบกระทั่งกัน และอาจจะเกิดรบรากันขึ้นแต่ให้ฝ่ายที่ออกไปล่าเนื้อหาอาหารนำอาหารที่หามาได้แบ่งกันกินฝ่ายละครึ่ง การกระทำโดยวิธีนี้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขตลอดมา อยู่มาวันหนึ่งสุวรรณนาคพาบริวารไพร่พลออกไปล่าเนื้อหาอาหารได้ช้างมาเป็นอาหาร ได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่งพร้อมกับนำขนของช้างไปให้ดูเพื่อเป็นหลักฐานต่างฝ่ายต่างกินเนื้ออย่างอิ่มหนำสำราญด้วยกันทั้งสองฝ่าย และวันต่อมาอีกวันหนึ่งสุวรรณนาคได้พาบริวารไพร่พลออกไปล่าเนื้อหาอาหารได้เม่นมา สุวรรณนาคได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม พร้อมทั้งนำขนของเม่นไปให้ดู ปรากฎว่าเม่นตัวเล็กนิดเดียว แต่ขนของเม่นใหญ่เม่นตัวเล็กเมื่อแบ่งเนื้อเม่นให้สุทโธนาคจึงต้องแบ่งให้น้อยสุทโธนาคได้พิจารณาดูขนเม่นเห็นว่าขนาดขนช้างเล็กนิดเดียวตัวยังใหญ่โตขนาดนี้ แต่นี้ขนใหญ่ขนาดนี้ตัวจะใหญ่โตขนาดไหนถึงอย่างไรตัวเม่นจะต้องใหญ่กว่าช้างอย่างแน่นอน เลยเกิดประเด็นทะเลาะกัน7 ปี เดือดร้อนถึงพระอินทร์ต้องลงมาตัดสิน ว่า หากใครขุดทางน้ำถึงทะเลก่อน ผู้นั้นจะได้ปลาบึกไปครอบครอง ผลสุดท้าย พญาศรีสุทโธเป็นผู้ชนะ และได้ไปเฝ้าพระอินทร์ว่า ขอทางลงสู่เมืองบาดาล 3 จุด นั่นคือ ที่แรกคือ พระธาตุหลวงเวียงจันทร์ จุดที่ 2 คือ หนองคันแทที่เมืองลาว และจุดที่ 3 คือ พระหมประกายโลก นั่นคือ เกาะคำชะโนดในปัจจุบัน แต่พรหมประกายโลกนี้สามารถเชื่อมต่อได้ 3 โลก คือ สวรรค์ มนุษย์ และบาดาล
ข้อปฏิบัติในการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์
1. ห้ามนำภาชนะอย่างอื่นลงไปตัก จะมีเจ้าหน้าที่เตรียมภาชนะไว้ตักให้แล้ว
2. ห้ามนำน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มาล้างเท้า แต่สามารถนำมาประพรมศรีษะ หรือ ลูบตามเนื้อตามตัวได้
3. นำกลับบ้านได้เพื่อเป็นสิริมงคล
ปัจจุบันทางเกาะคำชะโนดได้สร้างสระน้ำขนาดย่อม พร้อมติดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้ตักน้ำที่บริสูทธิ์ สะอาด กลับไปประพรม ลูบหน้าที่บ้านได้
จุดสุดท้ายที่รวมพลคนชอบเสี่ยงโชค นั่นก็คือ ต้นมะเดื่อยักษ์ หากท่านได้เดินทางไปที่นั่น จะเห็นจนเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนที่นั่น จะทำสารพัดวิธีให้ได้มาซึ่งตัวเลข เพราะในอดีตเชื่อว่า ตรงนี้เป็นคลังสมบัติพญานาค ผู้ที่มาเสี่ยงโชคนั้นก็ล้วนแล้วแต่บุญบารมีของเขาด้วยนั่นเอง
Cr. เนื้้อหาบางส่วนจากThairath youtube