กว่าจะเป็นพระราชวังเว้
ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติแห่งเมืองเว้
![](http://i.imgur.com/Fa0VaLm.jpg)
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองเว้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเมื่อมาทัวร์เวียดนาม สังเกตจากกำแพงพระราชวังเว้ชั้นนอก (มีทั้งหมด 3 ชั้น ) แค่เพียงแรกเห็นก็รู้สึกทันทีว่า พระราชวังแห่งนี้ใหญ่โตและแข็งแรงมาก แถมรอบๆ มีคูน้ำโอบล้อมอีก (ทำให้นึกถึงปราสาทนครวัดของกัมพูชาที่เคยไปมาก่อนหน้านี้เลย) หลังเดินลอดผ่านประตูกำแพงพระราชวังที่หน้าตาคล้ายอุโมงค์มาได้ พวกเราก็ตรงไปตามถนน dinh Tien Hoang จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนไฮเหมื่อยบาทังต๋าม ก่อนจะแวะซึงซับเรื่องราวในอดีตที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติแห่งเมืองเว้ (Hue Historical and Revolutionary Museum) ทางขวามือกัน
กว่าจะเป็นพระราชวังเว้
![](https://www.angelstartravel.com/files/Content/upload/897687745229143.jpg)
แต่ก่อนจะเข้าไปชมอดีตศูนย์กลางการปกครอง (ราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม) เรามาทำความรู้จักกับประวัติของพระราชวังเว้กันสักนิดดีกว่า เพื่อที่ระหว่างเดินชมจะได้จินตนการตามได้ว่า ในอดีตแห่งนี้ได้เคยยิ่งใหญ่ขนาดไหน ตามประวัติบอกว่า พระราชวังเว้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1804 ในรัชสมัยจักรพรรดิซาลอง เพื่อใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหงียน 13 พระองค์ ก่นแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1833 ในสมัยของจักรพรรดิมิญมาง ความที่การสร้างพระราชวังได้รับอิทธิพลจากพระราชวังต้องห้ามของจีน โครงสร้างและแผนผังโดยรวมจึงดูคล้ายกันพอสมควร
ตัวพระราชวังเว้อยู่ภายใต้กำแพงซึ่งอันแน่นหนาถึง 3 ชั้น ชั้นแรกคือ กำแพงกิญทัญ (Kinh Thanh) ชั้นที่สองคือ กำแพงฮวางทัญหรือกำแพงเหลือง (Hoang Thanh) ที่มีประตูทางเข้า 4 ทาง ได้แก่ ประตูเหงาะโมน (Ngo Mon-ทิศใต้) ประตูฮวาบิญ (HoaBhnh-ทิศเหนือ) ประตูเหียนเญิน (Hien Nhon-ทิศตะวันออก) และประตูเจืองดึ๊ก (Choung Duc-ตะวันตก) ก่อนจะปิดท้าย ด้วยกำแพงตือกามทัญ ( Tu cam Thanh) ที่ล้อมเขตพระราชฐานชั้นใน สำหรับจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
แม้ได้ชื่อว่าพระราชวัง แต่ภายในกำแพงก็ไม่ได้มีแต่สถานที่ประทับของจักรพรรดิอย่างเดียวนะคะ ที่นี่ยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ตำหนักต่างๆ ตลอดจนสถานที่พักของราชวงศ์เหงียนขณะนั้นเป็นอย่างดี แต่ใดๆ ในโลกล้วนไม่จีรัง จากพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สวยงามสุดท้ายกลับต้องมาพังทลายด้วยผลกระทบจากสงคราม ทำให้ปัจจุบันเหลืออาคารต่างๆ อยู่ไม่มากนัก (บางส่วนกำลังบูรณะใหม่) ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้น หากมองดีๆ เชื่อว่าเราจะจินตนาการได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ในอดีตได้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นองค์การยูเนสโกคงไม่ประกาศให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก (World Heritage) 1ใน 7 ของเวียดนามหรอกค่ะ
**แนะนำ**
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดเวลา 07.00-11.00 น. และ 13.30-17.00 น. หยุดวันจันทร์ ค่าตั๋วเข้าชม 20,000 ด่อง
การเดินทาง: จากตีนสะพานเจืองเตียนฝั่งพระราชวังให้เลี้ยวซ้าย (หันหน้าออก) แล้วเดินไปตามถนน Tran Hung Dao จนเจอแยกก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน Dinh Tien Hoang ก่อนเลี้ยวซ้าย ยังถนน 23 Thang 8 เดินต่อสัก 100 ม. พิพิธภัณฑ์อยู่ทางขวามือ
ชมพื้นที่การจัดแสดงทางด้านหน้า
หลังซื้อตั๋วที่จุดจำหน่ายทางซ้ายมือแล้ว (คนละ 20,000 ด่อง) พวกเราจึงเริ่มต้นชมพื้นที่จัดแสดงทางด้านหน้าก่อน โดยมีทั้เครื่องบินรบ รถถัง เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ ของทหารสหรัฐอเมริกา ที่ใช้ทำสงครามกับเวียดนามเมื่อครั้งสงครามเย็น ให้ชม ขอบอกว่า อลังการมาก แถมส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์อีก แต่ชื่นชมได้ไม่นานนัก เราจึงเข้าไปด้านใน เนื่องจากทนแสงแดดยามบ่ายไม่ไหวจริงๆ
![](http://i.imgur.com/OJ5HOmo.jpg)
นิทรรศการของเก่า
ย้อนรอยอดีตไปกับเรื่องราวของการต่อสู้พอสมควร เราก็ย้อนกลับมาชมนิทรรศการของเก่า ซึ่งถูกขุดพบรอบๆ เมืองเว้ เป็นส่วนใหญ่ที่อาคารสไตล์โบราณ ตงกลาง เท่าที่เดินดูจนทั่วแล้ว งานที่โดดเด่นในยุคนั้นน่าจะเป็นงานเซรามิก แบบต่างๆ นี่แหล่ะ วัดจากจำนวนชิ้นงานในอาคารที่ส่วนใหญ่เป็นงานเซรามิก แม้งานแต่ละชิ้นไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์นัก แต่ก็พอหลงเหลือลวดลายให้เราได้จินตนาการถึงสภาพเดิมว่าสวยงามเพียงใด ส่วนงามประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีกลองโบราณ แห้นพิมพ์ตัวอักษรเวียดนาม เหรียญ งานสลักหิน เป็นต้น
สัมผัสความยิ่งใหญ่ของพระราชวังเว้
เต็มอิ่มไปกับสารถภายในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติแห่งเมืองเว้ เวลานี้เกือบบ่ายสามโมงแล้ว เราจึงรีบไปยังพระราชวังเว้สักที เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 2 ชั่วโมง พระราชวังก็จะปิดให้เข้าชม ว่าแล้วเราสองคนก็เลี้ยวขวาออกจากพิพิธภัณฑ์ก่อนตรงสู่พระราชวังทันที (เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอพระราชวังอยู่ทางขวามือ)
แวะถ่ายรูปลานกว้างและหอคอยธง
เมื่อมาเที่ยวเวียดนาม พลาดไม่ได้ต้องมาถ่ายภาพเพื่อเก็บความสวยงามของสถานที่กัน พอถึงด้านหน้าทางเข้าพระราชวังเว้ จากนั้นเราก็ชมลานกว้างขนาดใหญ่ที่มีหอคอยธง (Flag Tower) ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวัง พร้อมเล่าว่า หอคอยธงแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1807 รัชสมัยจักรพรรดิซาลองก่อนถูกซ่อมแซมและสร้างใหม่หลายครั้ง กระทั่งปัจจุบันมีขนาดใหญ่และสูงสุดของเวียดนามเลย ส่วนธงที่อยู่ด้านบนนั้น ณ ปัจจุบันคือ ธงประจำชาติเวียดนาม (ในอดีตธงถูกเปลี่ยนไปตามผู้ที่ปกครอง แรกเริ่มเป็นธงประจำราชวงศ์เหงียน ต่อมาในช่วงแบ่งประเทศได้เปลี่ยนแปลงเป็นธงของเวียดนามใต้ หลังจากรวมประเทศจึงเปลี่ยนมาเป็นธงชาติเวียดนามดังปัจจุบัน)
**แนะนำ**
หอคอยธง เปิดให้ชม 24 ทุกวัน เข้าชมฟรี เดินทางจากตีนสะพานเจืองเตียนฝั่งพระราชวัง เดินไปทางซ้ายมือตามถนน Tran Hung Dao จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าถนน Dinh Tien Hoang ก่อนเลี้ยวซ้ายถนน 23 Thang 8 เดินประมาณ 200 เมตร ก็เจอหอคอยธง