กรุงมอสโคว์Moscow
คำว่า “มอสโคว์” แปลว่า ที่ลุ่มเปียกแฉะ กรุงมอสโคว์ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1147 โดยเจ้าชายยูริ ดอลโกรูกี้ (Yury Dolgoruky) พระราชโอรสของกษัตริย์วลาดิมีร์ โมนมาค (Vladimir Monomkh) แห่งเมืองเคียฟ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตลาดโดยรอบ มีป้อมปราบตั้งอยู่บนภูเขา ก่อสร้างด้วยไม้ล้อมรอบเมืองไว้เพื่อป้องกันการุกรานจากศัตรู ต่อมามีการย้ายเมืองหลวงของเมืองวลาดิมีร์มาอยู่ที่นี่ ในการก่อสร้าง หินก้อนแรกได้วางลงที่โบสถ์อัสสัมชัญในกรุงมอสโคว์ในรูปแบบเดียวกันกับโบสถ์ของเมืองวลาดิมีร์ ตามมาด้วยความเจริญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพระราชวังเครมลิน ศูนย์กลางของเมืองหลวงและหัวใจของรัสเซีย ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามรวมกันอยู่มากมาย ถือได้ว่าเป็นส่วนที่เก่าที่สุดของมอสโคว์ ต่อมาในยุคการปกครองของพระเข้าอีวานที่ 3 ในช่วงตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 ได้มีคำสั่งให้บูรณะพระราชวังเคมลิน ทั้งยังทรงวางผังเมือง สร้างโบสถ์ และทำการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง โดยเชื้อเชิญสถาปนิกจากอิตาลีมาสร้างความเจริญให้กับประเทศได้แก่ Aristotelo Fioravanti, Aloisio da Carcanno, Marco Ruffo, Pietro Solario และ Antoio Gilardi
สถานปัตยกรรมของกรุงมอสโคว์นั้น เครมลินเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศีที่สุดในยุโรปกลางคำว่า “เครมลิน” มีความหมายว่าป้อมปราการ ทำให้การสร้างพระราชวังเครมลินมีกำแพงป้อมปราการล้อมรอบยาว 2,235 เมตร มีหอคอย 18 แห่ง ป้องกันการรุกรานจากเพื่อนบ้าน โดยมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ จากอิฐสีขาวของรอบรั้วกำแพง ปัจจุบันเป็นอิฐสีแดง ความสูงของหอคอยแตกกต่างกันระหว่าง 28-71 เมตร เช่น Spasskaya (savior) และ Troitskaya (Trinity) เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในจำนวน 18 แห่ง นอกจานั้นยังประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างรวมไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เช่น จัตุรัสวิหาร หรือ หมู่มหามณเฑียร จัตุรัสอีวานที่ปรกอบด้วยปืนใหญ่ ระฆังใบใหญ่ ฯลฯ และอาคารต่างๆ อีกมากมาย เช่น ที่ทำการรัฐบาล ฯลฯ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในกรุงมอสโคว์
หากท่านกำลังมองหาแหล่งเที่ยวในรัสเซีย หรือ ทัวร์รัสเซีย ขอแนะนำกรุงมอสโคว์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุดคือ เครมลิน ซึ่งประกอบด้วยตัวพระราชวังเครมลิน โบสถ์สำคัญต่างๆ เช่น โบสถ์อัสสัมชัญ โบสถ์อันนันซิเอชั่น โบสถ์อาร์คแอนเจล ไม่เคิล หอระฆัง ปืนใหญ่ของพระเจ้าซาร์ ตึกที่ทำการของรัฐบาล อาคารคลังแสงสรรพาวุธ พระราชวังคองเกรส และพิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่
รอบรั้วพระราชวังเครมลิน
ตั้งอยู่บนชายฝั่งของแม่น้ำมอสควาและแม่น้ำเนกลินนายา มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยนด้านไม่เท่ากัน ถูกสร้างขึ้นเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ผู้ครองเมืองทุกพระองค์ (จนกระทั่งยุคของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ทรงย้ายเมืองหลวงไปอยู่นครเซนตืปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งห่างจากกรุงมอสโคว์ไปทางทิศเหนือประมาณ 700 กิโลเมตร) จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบบคอมามิวนิสต์ จึงได้ย้ายเมืองหลวงกลับมากรุงมอสโคว์ดังเดิม ถูกใช้เป็นที่ประชุมของสภาโซเวียตสูงสุด ปัจจบันเป็นที่ประชุมของรัฐบาลและที่รับรองแขกระดับประมุขของประเทศ ภายในพระราชวังประกอบด้วย 700 ห้อง ห้องที่สวยงามที่สุดและใหญ่ที่สุด ได้แก่ ห้องท้องพระโรงเซนต์จอร์จ (Saint Geroge Hall) บริเวณรอบล้อมของรั้วเคลมลินยังประกอบด้วยอาคารสำคัญต่างๆ มากมาย เช่น จัตุรัสวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความเจริญในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ได้แก่
1. โบสถ์อัสสัมชัญ (Cathedral of the Dormition)
เป็นโบสถ์ที่สำคัญใช้ในพิธีกรรมที่สำคัญ เช่น การประกอบพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าซาร์ พระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์ สร้างในปื ค.ศ. 1475-1479 ตามคำสนั่งของพระเจ้าอีวานที่ 3 เจ้าชายแห่งแคว้นมัสโควี โดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน สถาปัตยกรรม ภายนอกประกอบด้วยยอดโดม 9 ยอด ที่ภายในมีศิลปะภารพวาดแบบเฟรสโกบนผนัง จุดศูนย์กลางของโบสถ์จะมีประตูสวรรค์ รูปภาพไอคอน (รูปภาพนักบุญ) 5 ชั้น เป็นภาพประวัติของพระเยซู ภาพของพระแม่มาเรีย พระบุตร พระจิต ภาพนักบุญที่ทำความดี ซึ่งหลังจากเสียชีวิตได้ไปอยู่สวรรค์ มีบัลลังก์ของพระเจ้าอีวานที่ 42. โบสถ์อันนันซิเอชั่น (Cathedral of the Annunciation)
เป็นโบสถ์ที่สำคัญเพราะเป็นโบสถ์ส่วนตัวของพระเจ้าซาร์ เนื่องจากติดกับพระราชวังที่พักผ่อน สร้างในปีค.ศ. 1485-1489 ใช้ประกอบพิธีสวดมนต์ ล้างบาป และพิธีมงคลสมรส ภายใน โบสถ์ค่อนข้างเล็ก พื้นเป็นหินโบราณคือ หินควอตซ์ ความหรูหราของโบสถ์แห่งนี้คือ การประดับโดยหินเหล็กหล่อและรูปภาพไอคอนที่งามวิจิตร3. โบสถ์อาร์คแอนเจล ไมเคิล (Cathedral of the Archangel Michael)
สร้างในช่วงต้นของปี ค.ศ. 1505-1508 เพื่ออุทิศให้กับนักบุญอาร์คแอนเจล ไมเคิล เป็นผู้พิทักษ์พระเจ้าแผ่นดินและครอบครัวและคุ้มครองในยามสงคราม ทั้งยังเป็นที่เก็บพระศพของพระเจ้าซาร์ และเจ้าชายทั้งหมดก่อนที่จะถึงยุคของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชภายในประกอบด้วยหลุมศพ 54 หลุม4. หอระฆังอีวาน (Ivan the Great Bell Tower)
สร้างในปีค.ศง 1505-1508 ความสูง 60 เมตร ต่อมาในปีค.ศ. 1600 หอระฆังได้ถูกขยายออกความสูงเป็น 81 เมตร ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงในยุคนั้น และได้ออกกฎหมายห้ามก่อสร้างสิ่งใดๆ สูงเกินหอระฆังนี้ ภายในหอระฆังมีจำนวนระฆัง 21 ใบ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามหน้าที่และบทบาท น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 20-70 ตัน ระฆังใบใหญ่ที่สุดของเครมลินเรียกว่า ระฆังพระเจ้าซาร์ สร้างในปีค.ศ. 1733-1735 สมัยพระนางแอนนาที่ทรงประสงค์จะสร้างระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อนำขึ้นไปติดตั้งบนหอระฆัง แต่เนื่องจากขณะที่กำลังหล่ออยู่ มีการผิดพลาดทางเทคนิค ระหว่างความร้อนในการหล่อกับน้ำเย็น จึงทำให้ระฆังใบนี้แตกออก มีน้ำหนังของระฆังทั้งใบคือ 200 ตัน ส่วนที่แตกออกมีน้ำหนัก 10 ตัน ความสูงของระฆังคือ 6.14 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.6 เมตร ผิวของระฆังมีรูปสลักของพระเจ้าซาร์และซาริน่า หรือพระราชินีแห่งราชวงศ์โรมานอฟ จึงเก็บไว้ไม่ทำลาย5. ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Tsar cannon)
สร้างในสมัยปีค.ศ. 1586 มีความต้องการสร้างปืนใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังไม่เคยมีการใช้ยิงเลย ทำด้วยบรอนซ์ น้ำหนัก 40 ตัน ความยาว 5.35 เมตร ขนาดลำกล้องปืน 890 มิลลิเมตร (35 นิ้ว) และลูกกระสุน น้ำหนักลูกละประมาณ 1 ตัน นับว่าเป็นของสะสมในยุคนั้นCr. จากเซอร์ไพรส์รัสเซีย